วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

น้ำแอปเปิ้ล กันสมองเสื่อม

น้ำแอปเปิ้ลคั้นช่วยพิทักษ์รักษา ป้องกันสมองเสื่อม

นักวิจัยมหาวิทยาลัยแมสซาชูเสตต์แห่งสหรัฐฯ พบในการศึกษาว่า หนูที่เลี้ยงด้วยน้ำแอปเปิ้ลคั้น จะเดินในทางเดินวกวนเป็นเขาวงกตได้คล่องขึ้น และสมรรถภาพร่างกายก็ไม่ค่อยเสื่อมถอยเหมือนอย่างหนูชราตัวอื่นด้วย

วารสารทางวิชาการ “โรคสมองเสื่อม” รายงานผลการศึกษาว่า นักวิจัยได้เลี้ยงหนูด้วยน้ำแอปเปิ้ลคั้น ลองให้กินวันละ 2 แก้ว เป็นเวลา 1 เดือน และเมื่อได้ผ่าตรวจสมองหนูออกดู พบว่ามีเศษโปรตีน ที่เรียกว่า “เบตา อไมลอยด์” ซึ่งจับสมองเป็นคราบ แบบเดียวกับที่พบตามสมองของคนที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม เกาะจับอยู่เพียงเล็กน้อย

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

โทษของ โคลา

การดื่มน้ำอัดลมประเภท "โคลา" มากเกินไป ก่อให้เกิดความผิดปกติที่กล้ามเนื้อ จากสถิติพบว่า มีผู้ที่ชอบดื่มโคลามากกว่า 2 ลิตรต่อวันเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันผู้ผลิตก็เพิ่มปริมาณเครื่องดื่มที่วางขายในท้องตลาดมากขึ้น
ดร.โมเซส อาลีซาฟ จากมหาวิทยาลัยไอโอนนินา ประเทศกรีซ ผู้ศึกษา กล่าวว่า "โรคที่พบนั้นมีทั้งฟันผุ เบาหวาน กระดูกบาง กล้ามเนื้อและจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ทั้งยังมีโรค "ไฮโปคาลีเมีย" หรือระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำเกินไป"

ดร.อาลีซาฟยกตัวอย่างถึงกรณีผู้ป่วยหญิงอายุ 21 ปีและกำลังตั้งครรภ์ มาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เธอมีอาการอ่อนเพลีย ไม่อยากกินอาหาร อาเจียน จากการสอบถามพบว่า ผู้ป่วยดื่มโคลาวันละ 3 ลิตรทุกๆ วัน เป็นเวลานาน 6 ปีแล้ว และพบโรค "ไฮโปคาลีเมีย" ด้วย สำหรับการรักษาทำโดยงดดื่มโคลาและให้รับประทานโพแทสเซียม ไม่นานผู้ป่วยกลับมีสุขภาพแข็งแรงดี

ในเคสอื่นที่ผู้ป่วยดื่มโคลาวันละ 2-9 ลิตร พบว่า ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อผิดปกติไปจนถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์ถาวร
ดร.อาลีซาฟกล่าวต่อไปว่า "ปัจจุบันในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีการขายเครื่องดื่มแก้วใหญ่ ขวดใหญ่มากขึ้น เราควรต้องจับตาดูเพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค"
ส่วนสาเหตุที่โคลาทำให้ปริมาณโพแทสเซียมในร่างกายลดลงยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ที่อาจเป็นไปได้คือ น้ำตาลในโคลาทำให้ไตขับโพแทสเซียมออกไปมากเกินไป อีกทฤษฎีหนึ่งคือ กาเฟอีนในโคลาเป็นตัวขับโพแทสเซียม และแม้จะเป็นน้ำอัดลมที่ไม่มีกาเฟอีน แต่ก็ทำให้เกิดโรค "ไฮโปคาลีเมีย" ได้เช่นกัน เพราะน้ำตาลฟรุกโตสในน้ำอัดลมทำให้ท้องเสียได้

ทั้งนี้ เมื่อพ.ศ.2550 จำนวนน้ำอัดลมทั่วโลกที่บริโภคกันสูงถึง 552,000 ล้านลิตร หรือ 82.5 ลิตรต่อคน และอีก 3 ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมน้ำอัดลมตั้งเป้าไว้ที่ 95 ลิตรต่อคน

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การดื่มนม เป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้เกิดสิว


ใครที่ชอบดื่มนมเป็นประจำ รู้หรือไม่ว่า การดื่มนมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาบอกกัน...

วิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐฯ กล่าวว่า เด็กหนุ่มสาวทั้งหลายที่มีสิวขึ้นบนใบหน้าว่า ให้ลดปริมาณการดื่มนมให้น้อยลง เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการทดลองแล้ว พบว่า ถ้าอยากจะห่างสิวควรจะเลิกกินมันฝรั่งทอดกรอบและช็อกโกแลต แต่ในการทดลองใหม่นี้ได้แสดงว่าวัยรุ่นที่ดื่มนมประจำวันละไม่น้อยกว่า 476 ซีซี ล้วนแต่เป็นสิวกันครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มน้อยกว่าหรือไม่ดื่มเลย

นมมีความเกี่ยวพันกับการเป็นสิวอย่างชัดเจน รายงานผลการทดลอง ซึ่งเสนอในวารสารวิชาการ “แพทย์โรคผิวหนัง” แห่งอเมริกัน ยังกล่าวอีกว่า ฮอร์โมนการเจริญเติบโต และฮอร์โมนเพศในน้ำนมวัว อาจจะเป็นเครื่องกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้

ใครที่กำลังเป็นสิว และไม่แน่ใจในสาเหตุการเกิดสิว ลองลดปริมาณการดื่มนมดูนะคะ

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

10 สัญญาณที่บอกว่าคุณกินอาหารไม่เหมาะสม

1.ผมไม่เงางาม ถ้าถึงขนาดที่คุณจัดทรงไม่ได้เลยต้องถือว่ารุนแรงแล้วค่ะ ทั้งนี้เป็นผลจากการขาดโปรตีนและธาตุเหล็ก จะเห็นชัดเจนในกลุ่มคนที่เป็นมังสวิรัติหรือคนที่จำกัดอาหารอย่างมาก ลองกินอาหารให้มีส่วนผสมของธาตุอาหารอย่างเหมาะสม เน้นอาหารที่มีกากใย พร้อมไปกับการออกกำลังกาย สำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติต้องได้สารอาหารจากพืชผัก ข้าวและถั่ว ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อที่จะได้โปรตีนทดแทนจากโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ขาดไปและเพิ่มเติมด้วยกะหล่ำดอกและผลไม้เปลือกแข็ง เช่น เกาลัด ถั่วแขกและถั่วเหลือง ซึ่งดุดมไปด้วยไบโอติน สำหรับคนที่จำกัดอาหาร แม้ว่าจะอยากผอมแค่ไหนก็ไม่ควรอดอาหารจนเกินไปค่ะ ลองใช้วิธีฉลาดๆจำกัดอาหารแต่พอเพียง เพิ่มการออกกำลังกายอีกหน่อย

2.ผิวหนังส่ออาการคุณเริ่มมีอาการคันที่ผิวหนัง หรือลอกเป็นขุย แม้จะไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวบ้างไหมคะ อาการอย่างนี้อาจเป็นลักษณะของการขาดวิตามิน A ซึ่งผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้มหรือสีเขียวเข้ม ล้วนแต่อุดมไปด้วยวิตามิน A เพียงพอที่จะทำให้ผิวคุณเป็นปกติ แต่ไม่แนะนำให้กินวิตามิน A เสริมที่อยู่ในรูปแบบเม็ด เพราะการได้รับวิตามิน A โดยตรงมากเกินไปจะเป็นอันตรายได้ค่ะ

3.ข้อต่อมีเสียงดังหรือปวดบริเวณข้อต่อ อาการอย่างนี้อย่าเพิ่งไปโทษโรงข้ออักเสบ เพราะอาจเป็นไปได้ว่าคุณกินปลาน้อยเกินไป กระไขมันประเภทโอเมก้า-3 ที่พบมากในปลา อย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า จะทำให้ข้อต่อของคุณเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยให้กระแสโลหิตไหวเลียนดีขึ้น ลดอาการบวมและปวดบริเวณข้อต่อ

4.ผายลมบ่อย เป็นเรื่องจริงที่ไฟเบอร์มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้ากินมากเกินไปหรือได้รับสารอาหารประเภทนี้เร็วเกินไป เช่น กินถั่วหรือไม้จำพวกที่มีฝัก เช่น กระถิน ทองหลาง ร่างกายของคุณก็จะผลิตแก๊สตามออกมามากกว่าอาหารที่ย่อยง่ายตามปกติ

5.ท้องผูก เป็นอีกอาการหนึ่งที่บอกถึงการรับประมาณอาหารอย่างไม่เหมาะสม คุณต้องได้สารอาหารพวกไฟเบอร์หรือกาหารที่มีกากใย เช่น ผักผลไม้ต่างๆ อย่างน้อยวันละ 25 กรัม และดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วยวิธีแก้ปัญหานี้ง่ายๆ คือ ค่อยๆเพิ่มสารอาหารพวกไฟเบอร์อย่างช้าๆ ถ้าคุณเคยกินแค่เพียงวันละ 10 กรัม อย่าเพิ่มเป็น 25 กรัมในวันรุ่งขึ้น ในสัปดาห์แรกเพิ่มแค่เพียง 5 กรัม แล้วสัปดาห์ต่อมาค่อยเพิ่มอีก 5 กรัม

6.หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจของคนเราเป็นกล้ามเนื้อที่มีการบีบตัวมากกว่า 100,000 ครั้งต่อวัน แต่คงไม่สามารถทำงานอย่างสมบูรณ์แบบได้ตลอดเวลา ซึ่งถ้าอยู่ๆคุณรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติหรือเต้นๆหยุดๆโดนไม่มีเหตุผล ถ้ามีอาการเจ็บปวดหรือหน้ามืด เวียนศีรษะด้วย ให้รีบไปพบแพทย์ทันที แต่ถ้าแพทย์พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แต่คุณก็ยังรู้สึกว่ามีอาการหัวใจเต้นผิดปกติในบางครั้ง คุณอาจจะขาดสารอาหารพวกแมกนีเซียม หรือ โปแตสเซียมสำหรับโปแตสเซียม ให้ดื่มน้ำส้มวันละ 2-3 แก้ว ช่วงอาหารเช้าให้เพิ่มกล้วยเข้าไปในส่วนหนึ่งของเมนู สำหรับแมกนีเซียมให้ทานอาหารว่างที่เป็นพวกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวัน หรือเมล็ดฟักทองและผักโขม เป็นอีกตัวหนึ่งที่มีแร่ธาตุช่วยในการทำงานของหัวใจ

7.ขี้ลืม อาจเป็นได้ว่าคุณขาดวิตามิน B ในการศึกษาที่ USDA Human Nutrition Research Center in Boston นักวิจัยพบว่าผู้ชายที่มีระดับของวิตามิน B6 B12 และ B9(โฟเลต)สูงในเลือด จะมีความทรงจำที่ดีกว่า จากการทดสอบพบว่าสารอาหารพวกนี้ช่วยให้สมองทำงานได้เต็มที่ และยังช่วยควบคุม homocysteine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการที่เลือดจะไปหล่อเลี้ยงสมองถั่วเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน B6 และโฟเลตมากที่สุด และไม่ต้องกังวลกับการขาดวิตามิน B12 เพราะมีมากในเนื้อสัตว์และอาหารทะเล

8.Sperm น้อยลงไปมาก ถ้าคุณกำลังพยายามที่จะมีลูก และมีปัญหาเรื่องระดับของสเปิร์มต่ำกว่าปกติ อาจเป็นไปได้ว่าคุณขาดวิตามิน C ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการกระตุ้มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย จากการศึกษาพบว่าวิตามิน C ยังช่วยในการรักษาปริมาณและความสมบูรณ์ของตัวสเปิร์มด้วย Earl Dawson, Ph.D., ที่ University of Texas Medical Branch ที่ Galveston แนะนำว่าให้ผู้ชายดื่มน้ำส้มอย่างน้อยวันละประมาณ 1 ลิตรทุกวัน โดยบอกว่าวิตามิน C มีส่วนช่วยป้องกันสเปิร์มจากอันตรายและความเสียหายในทุกๆด้าน

9.ปวดเหงือก ถ้าการเจ็บปวดเกิดจากการอักเสบ ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและปัญหาของเหงือก แสดงว่าปากของคุณกำลังต้องการแบคทีเรียที่มีประโยชน์ ให้มาช่วยจัดการกับแบคทีเรียในปากที่มีอันตราย ให้กินโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียที่เราต้องการเป็นอาหารว่างในช่วงเช้าของทุกวัน

10.กระดูกแตก ถ้าคุณกระดูกแตกมากกว่า 2-3 ครั้งตั้งแต่โตเป็นผู้ใหญ่ อาจเป็นไปได้ว่ากระดูกของคุณอยู่ในภาวะอ่อนแอ อาจมีสาเหตุมากจากการขาดวิตามิน D และแคลเซียม ซึ่งเป็นตัวประกอบที่สำคัญในการสร้างกระดูก ผู้ชายก็ต้องการแคลเซียมมากเหมือนๆผู้หญิง เพราะผู้ชายมักจะกินเนื้อมากกว่า ซึ่งอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส ยิ่งร่างกายได้รับฟอสฟอรัสมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องการแคลเซียมมากขึ้นเท่านั้น อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ได้แก่ ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง โยเกิร์ต นมและเนยแข็ง ( ไขมันต่ำได้ก็ดี )ลองสังเกตร่างกายตัวเองบ่อยๆนะคะ เพราะอย่างไรเสีย หากเราดูแลตัวเองได้ดีก็ไม่ต้องถึงมือคุณหมอให้ยุ่งยากเปล่าๆ ไหนจะเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาด้วย ไม่คุ้มกันแน่ๆ

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ของว่าง ไม่กลัวอ้วน

รู้น่ะว่ากลัวอ้วน! แต่รายการ "อาหารว่าง" ต่อไปนี้ นอกจากไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มแล้ว ยังมีผลดีต่อสุขภาพ

ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืชต่างๆ นอกจากจะช่วยให้สมองแล่นอารมณ์ดีและอิ่มนานเป็นชั่วโมงแล้ว ยังช่วยชะลอความชราได้อีกด้วย

กล้วย อุดมด้วยโพแทสเซียมช่วยคุมระดับความดันเลือด วิตามินบี 6 สำหรับแก้อาการอ่อนเพลีย หงุดหงิดและนอนไม่หลับ และเซโรโทนินทำให้อารมณ์ดี

แครอท เปี่ยมไปด้วยแคโรทีนอันเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ แครอตจึงเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม และสามารถป้องกันโรคหัวใจ รวมถึงมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย

ลูกเกด มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง แถมยังดีต่อสุขภาพฟัน นอกจากนี้แร่ธาตุในลูกเกดยังอาจส่งผลต่อระดับเอสโตรเจนในร่างกายและป้องกันโรคกระดูกพรุน


ถั่วเปลือกนิ่มต่างๆ มีโปรตีน วิตามินบีจำนวนมาก ถั่วลันเตาหรือถั่วเหลืองต้มสุกสักถ้วยดีต่อสุขภาพแน่นอน


แอปเปิ้ล เชื่อกันว่า ผลไม้ที่เป็นแหล่งของไฟโตเคมิคัลหลากชนิดนี้สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ช่วยการขับถ่าย และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะเส้นเลือดแตกในสมอง มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคเบาหวาน และโรคหอบได้



ข้าวโอ๊ตต้มพร้อมพรั่งทั้งสารอาหาร จากพืช โปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ Low-Gl ยังช่วยให้อิ่มไปตลอดเช้า ถ้าไม่มีเวลาต้มก็ลองซื้อแบบปรุงง่ายๆ ด้วยไมโครเวฟมาทาน


องุ่น เชื่อกันว่า แหล่งวิตามินเอ ซี และบี 6 รวมถึงธาตุเหล็ก และเซเลเนียม ชั้นเลิศนี้ในเนื้อองุ่นป้องกันมะเร็งได้

เยลลี่ หากเลือกกินชนิดปราศจากน้ำตาล ไม่เพียงแต่จะปลอดภัยจากไขมัน แต่ยังแทบไม่มีแคลอรีอีกด้วย

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

นวดปรับธาตุให้สมดุล โดยไม่ต้องพึ่งยา

ทุกวันนี้การค้าเจริญไปมาก การก่อสร้างและออกแบบตกแต่งต่างไปจากในอดีต การนำฮวงจุ้ยมาใช้มักด้วยวัตถุประสงค์ว่า เพื่อสร้างให้พื้นที่เกิดความสวยงาม รวมทั้งเป็นการเสริมดวงที่ดีขึ้น มีโชคลาภเข้ามา ในมิติหนึ่งฮวงจุ้ยจึงเป็นศิลปะของการสร้างหรือตกแต่งหรือจัดวาง เพื่อจัดการกับพลังที่มองไม่เห็น ทั้งเพื่อเสริมพลังดี และสลายพลังที่ไม่ดี

เช่นเดียวกับสปาหาญ (HARNN Natural Home Spa) ที่ได้ จิตรา ก่อนันทเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์จีนมาทำหน้าที่ออกแบบฮวงจุ้ยให้ ในครั้งนี้เธอกล่าวว่า มีการค้นพบการจัดแต่งฮวงจุ้ยสำหรับการอยู่อาศัยและการทำงาน ตลอดจนชีวิตครอบครัวเรียกว่า "ดูตี่ลี่" และเรียกการทำหรือจัดแต่งสุสานสำหรับบรรพบุรุษว่า ฮวงจุ้ย หรือ เฟิงสุย แต่ที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่ในไทยเข้าใจเหมารวมว่าการจัดแต่งสถานที่ทั้งสำหรับคนเป็นและคนตายคือ ฮวงจุ้ย


ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านศาสตร์จีนได้กล่าวถึงการนำเอาสปามาช่วยเพื่อปรับธาตุกายให้สมดุล นับว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะมาก เพราะ ทุกวันนี้แม้จะมีผู้รู้จักคำว่า ธาตุ แต่ก็อาจไม่รู้จักโดยละเอียดว่าธาตุมี 3 แบบ ได้แก่ ธาตุในทางวิทยาศาสตร์ ธาตุในทางโหราศาสตร์จีน และธาตุในทางพระพุทธศาสนาและอายุรเวท ซึ่งเป็นแนวทางที่สปาหาญนำมาใช้เป็นการดูแลร่างกายเพื่อให้มีธาตุกายที่สมดุล


ธาตุลม คือ ระบบประสาทและเส้นสายภายใน ที่เราเรียกการออกกำลังและการนวดตัวว่าเพื่อยืดเส้นยืดสาย

ส่วน ธาตุไฟ คือ อุณหภูมิในร่างกายที่ควรอุ่นพอดี ไม่ร้อนเกินไป ถ้าทำงานเหนื่อยหรือหนักเกินไปจนอวัยวะภายในทำงานหนัก ตัวก็จะร้อน ในที่นี้น้ำขมสามารถช่วยได้กับธาตุไฟ

สำหรับธาตุที่สามคือ ธาตุรวมดินและน้ำ คือ เลือดเนื้อ ซึ่งทุกวันนี้มีการวิจัยพบว่า การนั่งนิ่งๆ ในที่แคบเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดอาการหัวใจวายจากลิ่มเลือดอุดตัน วิธีแก้ที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ร่างกายอ่อนเพลีย คือ การนวด ทั้งด้วยการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ด้วยน้ำมันกลิ่นหอมที่เป็นสุคนธบำบัด คนส่วนใหญ่ที่วัยเลยเลขสี่ ทุกครั้งที่เพลียหรือรู้ตัวว่าทำงานเกินกว่าวันละ 8 ชั่วโมง หรือนั่งทำคอมพิวเตอร์นานจนลืมเวลา ควรมานวดผ่อนคลาย ไม่ใช่กินอาหารเสริมมากจนเป็นโรคตับ" จิตรา อธิบาย


อย่างไรก็ดี เธอกล่าวย้ำด้วยว่า เพื่อจัดระบบฟื้นฟูให้ลูกค้าคืนสู่สภาวะสมดุลในธาตุได้อย่างเต็มที่ สปาแต่ละแห่งจึงควรจัดให้มีการตรวจสุขภาพแก่ลูกค้าก่อน เพื่อทราบว่าขณะนั้นร่างกายแต่ละคนกำลังอยู่สภาวะธาตุอย่างไร ทั้งนี้อาจจะจัดเป็นกลิ่นสุคนธบำบัด หรือโปรดักส์ที่เหมาะสมกับลูกค้าให้รู้สึกผ่อนคลาย และก่อให้เกิดผลประโยชน์ของการปรับสมดุลธาตุแทนที่จะไปกินอาหารเสริมมากเกินไปซึ่งเป็นการแก้ไขไม่ถูกจุด

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ดื่มเหล้าอะไรก็เสี่ยงมะเร็งเต้านม

ดร.อาร์เธอร์ แคลตสกี จากโครงการเดอะ ไคเซอร์ เพอร์มาเนนท์ เมดิคัล แคร์ โปรแกรม ในโอ๊กแลนด์ เปิดเผยต่อที่ประชุมมะเร็งยุโรปว่า จากการศึกษากับสตรีหลายหมื่นคนพบว่า ปริมาณสุราที่ดื่มคือปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าประเภทของสุรา มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงทั่วโลกมากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปอด คาดว่าปีนี้จะตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ 1.2 ล้านคนทั่วโลก และจะมีผู้เสียชีวิต 500,000 คน คณะนักวิจัยศึกษาพฤติกรรมการดื่มสุราของสตรี 70,000 คน ที่มีเชื้อชาติแตกต่างกัน พวกเธอตรวจสุขภาพช่วงปี 2521-2528 ปรากฏว่าในจำนวนนี้เกือบ 3,000 คน เป็นมะเร็งเต้านมก่อนปี 2547

คณะนักวิจัยพบว่า สตรีที่ดื่มสุราวันละ 1-2 แก้ว มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับผู้ที่ดื่มไม่ถึงวันละ 1 แก้ว แต่หากดื่มเกินวันละ 3 แก้ว จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 ส่วนการที่เคยมีผลการศึกษาอื่นชี้ว่า การดื่มสุราแต่พอควรช่วยป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายได้นั้น คณะนักวิจัยชุดนี้คิดว่า อาจเป็นเพราะแอลกอฮอล์ช่วยให้เกิดคอเลสเทอรอลชนิดดี ที่ช่วยลดการเกิดลิ่มเลือด และลดความเสี่ยงเป็นเบาหวาน แต่แอลกอฮอล์ กลับเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมตามผลที่ได้จากงานวิจัยชิ้นนี้.

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การออกกำลังกายให้เหมาะสมกับกลุ่มอายุ

การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เปรียบเสมือนการให้อาหารเสริมที่ดีกับชีวิต เราทุกคนจึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับกลุ่มอายุด้วย

อายุต่ำกว่า 10 ขวบ เน้นที่ความสนุกของเด็กเป็นหลัก เพื่อฝึกความคล่องตัว และรู้จักเล่นกับเพื่อน เป็นการออกกำลังกายเบาๆ ง่ายๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากนัก เช่น วิ่ง เล่นเกมส์ กายบริหารประกอบดนตรี ปีนไต่ ยิมนาสติก ที่สำคัญพ่อแม่ไม่ควรมุ่ง ให้ลูกฝึกเพื่อเอาชนะ เพราะไม่ดีกับสุขภาพเด็ก

วัย 11-14 ปี เน้นเรื่องความคล่องแคล่วและปลูกฝังน้ำใจนักกีฬา จึงควรเล่นกีฬาหลากหลายเพื่อพัฒนาร่างกายทุกส่วน เช่น ปิงปอง แบดมินตัน ยิมนาสติก ฟุตบอล แชร์บอล ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน ที่เป็นข้อห้ามคือชกมวยและการออกกำลังกายที่ต้องใช้ความอดทน เช่น วิ่งไกล กระโดดไกล ยกน้ำหนัก รักบี้ ยิมนาสติกที่มีแรงกระแทกสูง เพราะจะขัดขวางการเติบโตและความยาวของกระดูก

วัย 15-17 ปี เริ่มมีความแตกต่างระหว่างเพศ ผู้ชายจะออกกำลังกายเพื่อให้เกิดกำลัง ความแข็งแรง รวดเร็ว อดทน เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน เล่นบาส วอลเล่ย์บอล โปโลน้ำ ขณะที่ผู้หญิงออกกำลังกายที่ไม่หนักแต่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของร่างกาย เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน เต้นแอโรบิค เทนนิสวัย

18-35 ปี ควรออกกำลังกายหลายๆ อย่างเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อทุกส่วน เช่น วิ่ง ถีบจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก เล่นกีฬา เช่น บาสเกตบอล เทนนิส ฟุตบอล แบดมินตัน ปิงปอง สคว้อช กอล์ฟ ลีลาศ

วัย 36-59 ปี วัยนี้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความอ่อนตัวของเอ็นและข้อต่อมีแต่เสื่อมลงทุกวัน ควรออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 5 วัน ๆ ละ 30 นาที จะฟื้นฟูร่างกายได้ ที่แนะนำคือ เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ถีบจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค

วัยอายุ 60 ปีขึ้นไป การออกกำลังกายด้วยการ เดิน กายบริหาร รำมวยจีน ซีกง ถีบจักรยานอยู่กับที่ ว่ายน้ำ จะช่วยเสริมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ให้ดีขึ้น