วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2553

“กาลิเลโอ”


"กาลิเลโอ" ปราญช์ผู้เปิดฟ้า ให้โลกเห็นจักรวาลอันกว้างใหญ่

แม้ “กาลิเลโอ” ไม่ใช่คนแรกที่คิดค้นกล้องโทรทรรศน์ขึ้นมา แต่เขาก็สร้างกล้องโทรทรรศน์ของเขาเองจากแนวคิดที่ได้ยินมา แล้วใช้เป็นอุปกรณ์สำคัญสำรวจออกไปนอกโลกและได้เห็นจักรวาลอันกว้างใหญ่ยิ่ง ไปกว่า “คำสอน” ที่ครอบงำความคิดของคนเมื่อ 400 ปีก่อน

กาลิเลโอ กาลิเลอิ (Galileo Galilei) เป็นนักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์และนักปรัชญาชาวอิตาลี มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 2107-2185 เขาเกิดที่เมืองปีซา เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2107 ในครอบครัวที่มีพ่อเป็นนักประพันธ์เพลงและนักดนตรีที่มีชื่อสียงคือ วินเซนโต กาลิเลอิ (Vincenzo Galilei) และมีพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยเขาเป็นพี่ชายคนโต วงต้นของชีวิตกาลิเลโอที่มักได้รับการพูดถึง คือการสมัครเข้าเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยปีซา (University of Pisa) ตามความปรารถนาของพ่อ แต่ภายหลังเขาได้เปลี่ยนไปเรียนคณิตศาสตร์จนจบการศึกษา และในปี 2133 เมื่ออายุได้ 26 ปีเขาได้รับแต่งตั้ง ให้เป็นหัวภาควิชาคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัย จากนั้นอีก 3 ปีเขาได้ย้ายไปสอนวิชาเรขาคณิต กลศาสตร์และดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยปาดัว (University of Padua)

เขาใช้เวลา 18 ปีทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยปาดัว ซึ่งในช่วงเวลานี้เขาได้สร้างผลงานทางวิทยาศาสตร์มากมาย ทั้งการค้นพบในด้านวิทยาศาสตร์บริสุทธ์ ตัวอย่างเช่น กลศาสตร์ของการเคลื่อนที่และการค้นพบทางดาราศาสตร์ เป็นต้น และการค้นพบด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เช่น เรื่องความแข็งแรงของวัสดุและการปรับปรุงคุณภาพของกล้องโทรทรรศน์ เป็นต้น

การปรับปรุงคุณภาพของกล้องโทรทรรศน์นี้เอง เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เขาได้ค้นพบทางดาราศาสตร์ที่สำคัญๆ หลายอย่าง ด้วยกำลังขยายของกล้องเพียงไม่กี่สิบเท่า ทำให้เขาได้มองเห็นความจริงบนท้องฟ้าที่ขัดแย้งกับความเชื่อและคำสอนของ ศาสนาจักรที่สืบทอดมานับพันปี และทำให้เขาถูกดำเนินคดีในฐานะบุคคลนอกรีตในที่สุด


ด้วยกล้องโทรทรรศน์ ทำให้กาลิเลโอพบว่ามีวัตถุเล็ก 4 วัตถุโคจรรอบดาวพฤหัสบดี พบปรากฏการณ์ข้างขึ้นข้างแรมของดาวศุกร์ ซึ่งจะเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ดาวศุกร์ต้องโคจรรอบดวงอาทิตย์ สิ่งที่เขาค้นพบจึงขัดแย้งกับคำสอนของศาสนจักรที่อ้างแนวคิดจักรวาลในแบบปโตเลมี (Ptolemaic model) ว่า โลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล” และยังมีอีกหลายค้นพบที่คัดแย้งกับคำสอนของศาสนจักร

การค้นพบของกาลิเลโอ สอดคล้องกับทฤษฎีของ นิโคลัส โคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus) นักดาราศาสตร์ชาวโปแลนด์ที่เสนอไว้ก่อนหน้านั้นว่า ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล (heliocentric model) และทำให้โคเปอร์นิคัสต้องถูกขังคุก

เมื่อปี 2175 กาลิเลโอได้ตีพิมพ์หนังสือ “บทสนทนาว่าด้วยโลกหลักสองระบบ” (Dialogue Concerning the Two Chief World Systems) ซึ่งสนับสนุนทฤษฎีของโคเปอร์นิคัส และแย้งความเชื่อที่ว่าโลกเป็นศูนย์กลางระบบสุริยะ แต่หนังสือดังกล่าวถูกสั่งห้ามเผยแพร่โดยศาสนจักร และอีก 2 ปีต่อเขาถูกดำเนินคดีโดยพระสันตปาปาด้วยข้อหาร้ายแรงว่าเป็นพวกนอกรีต และถูกตัดสินให้ถูกกักขังอยู่ในบ้านของตัวเอง

ในปี 2181 เขาจึงเขียนหนังสืออีกเล่มคือ “วาทกรรมและการพิสูจน์เชิงคณิตศาสตร์เกี่ยวกับสองศาสตร์ใหม่” (Discourses and Mathematical Demonstrations Relating to Two New Sciences) ซึ่งตีพิมพ์ในฮอลล์แลนด์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี และปีเดียวกันนี้ตาของเขาบอดได้สนิท แล้วยังต้องทุกข์ทรมานกับโรคไส้เลื่อนและโรคนอนไม่หลับ อีก 4 ปีต่อมาเขาได้เสียชีวิตลงในบ้านที่กลายเป็นสถานที่จองจำเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2185 รวมอายุได้ 78 ปี

วันนี้เรามาไกลจากความเชื่อที่ว่า โลกเป็นศูนย์กลาง และเทคโนโลยีด้านอวกาศที่ก้าวหน้ามากขึ้นได้ทำให้เราได้เห็นข้อเท็จจริงที่ ว่า โลกเป็นเป็นเพียงดาวเคราะห์ดวงเล็กๆ ราวผงฝุ่นในดาราจักรทางช้างเผือกอันกว้างใหญ่ ท่ามกลางดาราจักรอีกนับแสนนับล้านในเอกภพ.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น